บวชเถอะ แม้เป็นสามเณรก็แทนคุณพ่อแม่ได้


ทำไมการบวชถึงตอบแทนบุญคุณบิดามารดาได้ เพราะการบวชคือทางลัด เมื่อผู้บวชตั้งใจบวช ฝึกฝนตนเองตามคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ตามหลักธรรมวินัย บุญย่อมส่งผลท่านทั้งที่มีชีวิตอยู่หรือแม้ละโลกไปแล้วก็ตาม อานิสงส์ของการบวชนี้ มิเพียงแต่ส่งผลถึงบุพการีในชาตินี้เท่านั้น ยังส่งผลถึงพ่อแม่ในภพชาติก่อนอีกด้วย

บวชสามเณร

เรื่องมีอยู่ว่า
ครั้งหนึ่ง พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตะวัน ทรงปรารภสามเณรชื่อสานุ  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อิทํ ปุเร เป็นต้น

สามเณรสานุเป็นบุตรคนเดียวของอุบาสิกาคนหนึ่ง นางให้ลูกบวชแต่อายุยังน้อย เมื่อบวชแล้วก็เป็นผู้มีศีลดี มีวัตรงาม ไม่บกพร่องในอุปัชฌายวัตร อาจาริยวัตร และอาคันตุกวัตร เป็นต้น ในวันธรรมสวนะ 8 วันต่อเดือน สามเณรลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ตั้งน้ำไว้ในโรงน้ำ ปัดกวาดโรงธรรม ตามประทีป และประกาศวันธรรมสวนะด้วย เสียงอันไพเราะ

ภิกษุทั้งหลาย ทราบความสามารถของเธอแล้ว ให้เธอแสดงธรรมใน บางโอกาส เธอไม่ได้อิดเอื้อน หรือแก้ตัวว่าปวดท้องปวดหัว หรือเจ็บคอ แต่ประการไรเลย

เธอขึ้นสู่ธรรมาสน์แสดงธรรม ประหนึ่งหลั่งน้ำลงจากอากาศ เมื่อจะลงจากธรรมาสน์ได้กล่าวทุกครั้งว่า ข้าพเจ้าให้ส่วนบุญแก่มารดา สามเณรหมายถึงมารดาในอดีตชาติ ซึ่งในเวลานั้น ยักษิณี (คือยักษ์ผู้หญิง) ตนหนึ่งซึ่งเคยเป็นมารดาในอดีตชาติของสามเณรมาฟังธรรมเทศนาของสามเณรอยู่เป็นประจำ

นางมากับเทวดาทั้งหลาย เพื่อฟังธรรมของสามเณร และได้อนุโมทนาบุญที่สามเณรแผ่อุทิศให้

พวกเทวดาที่มาฟัง มีความเคารพในสามเณร ทำให้ยักษิณีพลอยได้รับความเคารพไปด้วย ในสมัยที่มีการฟังธรรม และสมัยที่ยักษ์ประชุมกัน พวกเขาย่อมให้อาสนะที่ดี น้ำที่ดี และอาหารที่ดีแก่ ยักษิณีด้วยศักดิ์ว่า "นางเป็นมารดา ของสามเณร" ตลอดถึงผู้มีศักดิ์ใหญ่ เมื่อเจอนางยักษิณีก็หลีกทางให้ หรือลุกจากอาสนะเป็นการต้อนรับและให้เกียรติ

ต่อมาเมื่อสามเณรโตเป็นหนุ่มขึ้น มีความปรารถนาจะสึกไปครองฆราวาส ไม่อาจบรรเทาความปรารถนานี้ได้ เกิดความเบื่อหน่ายในการบวช ไม่ยินดีในการปฏิบัติธรรม ปล่อยผม และเล็บให้ยาว สบงและจีวรมอมแมม ไม่แจ้งให้ใครทราบ ถือบาตรและจีวร ไปยังเรือนของมารดาเพียงลำพังคนเดียว

มารดาต้อนรับเธอด้วยใจปีติ และโสมนัส และถามว่า "ครั้งก่อน ๆ ที่เคยมา สามเณรเคยมาพร้อมกับอาจารย์ และอุปัชฌายะ หรือมิฉะนั้น ก็มาพร้อมกับภิกษุหนุ่ม หรือสามเณรอื่น ไฉนวันนี้จึงมาคนเดียว ?"

สามเณรบอกความที่ตนปรารถนาจะสึก มารดาของเธอเป็นผู้มีศรัทธาในศาสนาไม่ปรารถนาให้สามเณรสึก จึงแสดงโทษแห่งความเป็นฆราวาสนานาประการ แต่ก็หาหยุดยั้งความคิดที่จะสึกของลูกชายไม่ได้ นางคิดว่าสามเณรเป็นผู้ฉลาด วันหนึ่งคงจะคิดได้เอง จึงกล่าวว่า "ขอให้สามเณรนั่งอยู่ก่อน จะจัดอาหารถวาย เมื่อฉันเสร็จแล้วจะนำผ้าสำหรับคฤหัสถ์มาให้"

ในขณะที่มารดาของสามเณรกำลังนั่งซาวข้าวอยู่นั้นเอง นางยักษิณีผู้เคยเป็นมารดาของสามเณรในชาติก่อน ได้เกิดความคิดถึงสามเณร ครั้นเล็งแลไปด้วยกำลังฤทธิ์ จึงรู้ว่าสามเณรสานุอยากลาสิกขา นางกลุ้มจนอยู่ไม่ติด เพราะหากสามเณรสึกออกไปคงจะอายพวกเทวดา ไม่กล้าเข้าสมาคมอีก

จึงรีบบึ่งไปขัดขวางไม่ยอมให้สึก แล้วเข้าสิงร่างสามเณรทันที สามเณรล้มทั้งยืน จากนั้นก็ตาเหลือกน้ำลายฟูมปากดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนพื้นดินนั้นเอง

นางอุบาสิกาเห็นอาการของลูก นั้นจึงซ้อนให้นอนบนตัก ชาวบ้านพากันมารุมล้อมบวงสรวงทำพลีกรรม เป็นต้น เพื่อให้สามเณรพ้นจากอันตราย

แม่พูดคร่ำครวญต่อไปว่า "ยักษ์ทั้งหลาย ย่อมไม่เล่นด้วย (เข้าสิง) กับคนที่รักษาอุโบสถศีล ทุกวัน 8 ค่ำ 14 และ 15 ค่ำ รักษาศีล 8 ศีลอุโบสถ ประพฤติพรหมจรรย์ ยักษ์ทั้งหลายย่อมไม่ตอแยกับคนเหล่านี้ ข้าพเจ้าได้สดับคำของพระอรหันต์ทั้งหลายมาอย่างนี้ แต่มาวันนี้ ข้าพเจ้าเห็นประจักษ์ด้วยตนเองว่า ยักษ์เล่น (เข้าสิง) กับสานุสามเณร"

นางยักษิณีได้ตอบกลับว่า "ใช่แล้ว ยักษ์จะไม่มารังแกผู้รักษาศีล ประพฤติพรหมจรรย์ หากสามเณรรู้สึกตัวเมื่อไร ขอฝากถ้อยคำนี้จากใจยักษ์ทั้งหลายว่า ขอเณรอย่าได้ทำบาปในที่ลับหรือที่แจ้ง และอย่าคิดสึกเด็ดขาด หากคิดจะทำหรือกำลังทำก็ตาม แม้นเหาะได้ดังนกก็มิอาจหนีพ้นจากทุกข์ได้เลย"

เมื่อกล่าวจบก็ออกจากร่างสามเณรไป


พอสามเณรสานุรู้สึกตัว ไม่ทราบว่าตนถูกยักษ์สิง จึงถามมารดาว่า เกิดเหตุอะไรขึ้น ตนจึงมานอนอยู่กับพื้นดิน และถามว่า "โยม คนทั้งหลายร้องไห้ถึงคนที่ตายไปแล้วบ้าง ยังมีชีวิตอยู่แต่จากไปบ้าง โยมเห็นฉันอยู่ เหตุไรจึงร้องไห้ ?"


มารดาของสามเณรต้องการจะแสดงโทษของการอยู่ครองแก่เธอ จึงกล่าวว่า "จริงอยู่ คนทั้งหลายย่อมร้องไห้ถึงคนที่ตายไปแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ แต่จากไป  ก็ผู้ใดละกามทั้งหลายได้แล้ว ยังจะเวียนมาในกามนี้อีก ชนทั้งหลายย่อมร้องให้ถึงผู้นั้นบ้าง เพราะเขาแม้เป็นอยู่ก็เหมือนตายแล้ว

พ่อเณรถูกยกขึ้นจากเถ้ารึงแล้ว ยังปรารถนาจะลงไปสู่เถ้ารึงอีก ถูกยกขึ้นจากเหวแล้ว ยังปรารถนาจะตกลงไปยังเหวอีก พ่อเณรเป็นเหมือนของที่ถูกนำออกจากเรือนที่ไฟไหม้แล้ว ยังปรารถนาจะมาอยู่ในเรือน เช่นนั้นอีก โยมจะปรับทุกข์กับใครเล่า ก็การบวชในพระพุทธศาสนานั่น เป็นประหนึ่งของที่ถูกนำออกจากเรือนที่ถูกไฟไหม้แล้ว"

เมื่อมารดากล่าวอยู่อย่างนี้ สามเณรให้ได้คิด และสลดสังเวช บอกมารดาว่า จะไม่สึกแล้ว มารดาก็อนุโมทนา และเมื่อได้ทราบว่า สามเณรลูกชายมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้จัดแจงไตรจีวร เพื่อการอุปสมบทของสามเณร

ต่อมาเมื่อเธอบวช แล้วไม่นาน พระศาสดามีพระประสงค์ จะให้พระสานุ อุตสาหะ ในการข่มจิต

จึงตรัสว่า "ธรรมดาจิตเที่ยวไปในอารมณ์ต่าง ๆ ตลอดกาล ความสวัสดีย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่สามารถข่มจิตลงได้ เพราะฉะนั้น บุคคลจึงควรทำความเพียรในการข่มจิต เหมือนนายหัตถาจารย์ ในการพยายามข่มช้างตกมัน ฉะนั้น"

ดังนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาว่า

อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ
เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ
ตทชฺชหํ นิคฺคหิสฺสามิ โยนิโส
หตฺถึ ปภินฺนํ วิย องฺกุสคฺคโห.


แปลว่า เมื่อก่อนนี้ จิตนี้ได้เทียวจาริกไป ตามอาการที่ปรารถนา ตามอารมณ์ที่ใคร่ตามสบาย วันนี้เราจักข่มมัน ด้วยโยนิโสมนสิการ ประหนึ่ง บุรุษผู้กุมขอข่มช้างที่ซับมัน ฉะนั้น

บวชสามเณร

พระภิกษุสานุได้ฟังธรรมจากพระบรมศาสดาทำให้ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านได้เป็นกำลังสำคัญยิ่งของกองทัพธรรม เป็นพระธรรมกถึกผู้เชี่ยวชาญเทศนาธรรม มีชื่อเสียงเลื่องลือกระฉ่อน ตราบจนกระทั่งนิพพานเมื่ออายุได้ 120 ปี

จึงเห็นได้ว่า การบวชนั้น แม้แค่เป็นสามเณรแต่หากตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่ในธรรมวินัย แม้ยังไม่บรรลุอะไรเลย ก็ยังได้รับการยกย่องจากทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย แม้หมู่ญาติของเราที่ล่วงลับไปแล้วก็ยังได้อานิสงส์ผลบุญอันไม่มีประมาณ

ที่สุดความความปรารถนาของพ่อแม่คือเห็นลูกได้ดี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่สิ่งที่พ่อแม่จะปลื้มมากคือ คนอื่นมาชมว่า ลูกของท่านเป็นคนดี เป็นเด็กดี

การได้บวชแม้แค่สามเณร แต่หากได้ฝึกฝนอบรมตนเอง เมื่อสึกออกมาแล้วก็ยังมีหลักธรรมไว้คุ้มครองชีวิตสืบต่อไปได้

ชีวิตใดที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่าชีวิตสมณะ ในช่วงปิดเทอมนี้มาเติมความบริสุทธิ์ให้กับตนเอง และเติมเต็มที่สุดแห่งความปรารถนาของบิดามารดาผู้มีพระคุณที่ให้กายเนื้อเรามา เอาบุญบวชนี้ตอบแทนท่านไปสู่สวรรค์ มาบวชตั้งแต่ยังเยาว์ มาแก้ความเขลา ทำให้เราเป็นลูกแก้ว เป็นสามเณรแก้ว ทดแทนบุญท่านในช่วงนี้กันครับ
 
"บวชฟรี ตั้งใจดี ได้บุญเยอะ"

 โครงการบรรพชาสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วไทย


 
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :

- https://is.gd/H9zUjK เข้าถึงเมื่อ 6/3/2562

- http://www.kalyanamitra.org/th/uniboon_detail.php?page=https://is.gd/H9zUjK เข้าถึงเมื่อ 6/3/2562

- http://dhammapadasstories.blogspot.com/2015/01/05_79.html เข้าถึงเมื่อ 6/3/2562






6 ความคิดเห็น:

  1. " บวชฟรี ตั้งใจดี บุญเยอะ" พาลูกพาหลานและชวนเพื่อนลูกเพื่อนหลานมาบวชกันเยอะๆนะคะ อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ 🌺🙏🙏🙏🌺

    ตอบลบ
  2. มาบวชสามเณร
    และสนับสนุนการบวชสามเณรกันเถิดค่ะ
    มาได้ทุกบ้านยิ่งดี ปิดเทอมภาคฤดูร้อน ลูกหลานจะได้มีที่พึ่งพิงทางศีลธรรม จริยธรรม เรียนรู้ความกตัญญูต่อพ่อแม่หมู่ญาติ ตั้งแต่อายุ 10 -18 ปี เป็นช่วงที่ต้องการ คำชีแนะ หนทางที่ถูกต้อง จะได้ไม่ไปพึ่งร้านเกมส์ หรือยาเสพติด พ่อแม่จะได้สบายใจ ไม่กังวนใจเวลาไปทำมาหากินนะคะ

    ตอบลบ
  3. สาธุ ขอเชิญทุกๆ ท่านมาร่วมกันสั่งสมบุญด้วยการเป็นเจ้าภาพบวชสามเณรในวันคุ้มครองโลก 22 เมษายน นี้ ด้วยกัน นะคะ ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ

    ตอบลบ
  4. พ่อแม่ทำอะไรให้เราตั้งเยอะ ถึงเวลา ที่เราจะต้องตอบแทนอะไรท่านสักอย่าง สาธุ สาธุ สาธู

    ตอบลบ
  5. ชายแมนๆบวชแทนคุณกันแยอะๆนะคะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ8 เมษายน 2565 เวลา 22:39

    Slingo Games - Sign up now and play for real money right from your
    Slingo is one of the most popular and https://vannienailor4166blog.blogspot.com/ popular slots on the market today. Enjoy classic, traditional slots from https://access777.com/ the 출장안마 comfort of your 1xbet login home with casinosites.one our

    ตอบลบ