ข้าวมธุปายาส เกี่ยวเนื่องกับวันวิสาขบูชาอย่างไร


ก่อนถึงวันวิสาขบูชา ก่อนที่พระบรมพระโพธิสัตว์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหญิงคนหนึ่งชื่อนางสุชาดา ได้น้อมข้าวมธุปายาสถวายแด่พระองค์ เรามาดูกันว่าข้าวมธุปายาสมีความเป็นมาอย่างไร



ข้าวมธุปายาส

พุทธศาสนิกชนทั้งหลายรู้จัก "มธุปายาส" ซึ่งเป็นอาหารโบราณตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจากเรื่องราวในพุทธประวัติ โดยมีนางสุชาดาเป็นผู้ปรุงถวายพระสิทธัตถะบรมโพธิสัตว์ หนังสือ "พระปฐมสมโพธิกถา" พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสมีกล่าวอรรถาธิบาย ขั้นตอนในการหุงข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาไว้เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ถอดความได้ดังนี้




"ก่อนที่จะถึงวันวิสาขปุรณมี เพ็ญเดือนหกนางสุชาดาก็ใช้ให้บุรุษทาสีกรรมการทั้งหลายเอาฝูงแม่โคจำนวน 1000 ตัว ไปเลี้ยงในป่าชะเอมเครือ เพื่อให้แม่โคทั้งหมดได้บริโภคเครือชะเอม อันจะทำให้น้ำนมมีรสหวานหอม"แล้วแบ่งโคนมออกเป็น 2 พวก พวกละ 500 ตัว เพื่อรีดเอาน้ำนมจากแม่โค 500 ตัวในกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 500 ตัว ในกลุ่มหลังบริโภค

ครั้นแล้วก็แบ่งแม่โคในกลุ่มหลังจำนวน 500 ตัว ออกเป็น 2 พวก ๆ ละ 250 ตัว แล้วรีดเอาน้ำนมแม่โค 250 ตัวจากกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 250 ตัว ในกลุ่มหลังบริโภค กระทำการแบ่งกึ่งกันเช่นนี้ลงมาทุกชั้น ๆ จนเหลือ 16 ตัว แล้วแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกละ 8 ตัว นำน้ำนมของแม่โค 8 ตัวแรกมาให้อีก 8 ตัวสุดท้ายบริโภค ทำเช่นนี้เพื่อจะให้น้ำนมของแม่โค 8 ตัวที่เหลือมีรสหวานอันเลิศจนกระทั่งเหลือแม่โคที่จัดไว้ใช้ 8 ตัว

ในคืนก่อนวันเพ็ญเดือน 6 หนึ่งวัน นางจึงนำภาชนะมารองเพื่อเตรียมจะรีดน้ำนมใส่ลง ขณะนั้นน้ำนมก็ไหลออกมาเอง จนเต็มภาชนะเป็นมหัศจรรย์ปรากฏ นางสุชาดาเห็นดังนั้น ก็รู้สึกปีติยินดีเข้ารับภาชนะซึ่งรองน้ำนมนั้นด้วยมือตน นำมาเทลงในภาชนะใหม่แล้วใส่ลงในกระทะนำขึ้นตั้งบนเตา ใส่ฟืนเตรียมก่อเพลิงด้วยตนเอง

เวลานั้นสมเด็จอัมรินทราธิราชก็เสด็จลงจุดไฟให้โชติช่วงขึ้น
ท้าวมหาพรหมทรงนำทิพย์เศวตฉัตร มากางกั้นเบื้องบนภาชนะที่หุงมธุปายาสนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 ได้มาประทับยืนรักษาเตาไฟทั้ง 4 ทิศ เหล่าเทพยดาทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ ต่างพากันนำเอาโภชนาหารอันเป็นทิพย์มาโปรย ใส่ลงในกระทะด้วย เมื่อน้ำนมเดือดก็ปรากฏเป็นฟองใหญ่ไหลเวียนขวาทั้งสิ้น จะกระเซ็นตกลงพื้นแผ่นดินแม้นสักหยดหนึ่งก็ไม่มี

ครั้นสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ดี นางจึงนำมาบรรจุลงในถาดทองคำข้าวมธุปายาสอันหุงเสร็จเรียบร้อยก็พอดี ไม่มีพร่อง ไม่มีเกิน แล้วปิดฝาด้วยถาดทองอีกใบหนึ่งห่อหุ้มด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์ เมื่อนั้นนางก็จัดแต่งอาภรณ์ให้เรียบร้อย ยกถาดทองคำซึ่งบรรจุมธุปายาสอันโอชะทูนขึ้นไว้บนศีรษะของตนแล้วเดินนำไปสู่ ที่ประทับแห่งพระบรมโพธิสัตว์

ข้าวมธุปายาสในครั้งพุทธกาล เป็นอาหารที่ปรุงให้มีรสหวานนุ่ม มีส่วนผสมของ ข้าวอ่อนที่ยังไม่สุกจัดคั้นออกจากรวงเป็นน้ำ แล้วหุงกับน้ำนมสดเจือด้วยน้ำผึ้งมีความข้นพอที่จะปั้นให้เป็นคำได้

 นางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาสนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส

นางปุณณทาสี ได้ตื่นแต่เช้า เดินทางไปยังต้นนิโครธพฤกษ์นั้น เห็นพระมหาบุรุษทรงประทับนั่งอยู่ ณ ควงไม้นั้น ผันพระพักตร์ทอดพระเนตรไปทางปาจินทิศ(ตะวันออก) มีรัศมีพระกายแผ่สร้านออกไปเป็นปริมณฑล งามยิ่งนัก นางก็นึกทึกทักตระหนักแน่ในจิตทันทีว่า วันนี้ เทพยดาเจ้าลงจากต้นไทรงาม นั่งคอยรับข้าวมธุปายาสของสังเวยของเจ้าแม่ด้วยมือทีเดียว นางก็ดีใจรีบกลับมายังเรือน บอกนางสุชาดาละล่ำละลักว่า เทพารักษ์ที่เจ้าแม่มุ่งทำพลีกรรมสังเวยนั้น บัดนี้ได้มานั่งรอเจ้าแม่อยู่ควงไม้ไทรแล้ว ขอให้เจ้าแม่รีบไป 

นางสุชาดามีความปลาบปลื้มกล่าวว่า ขอให้เจ้าเป็นลูกคนโตของแม่เถิด แล้วจึงมอบเครื่องประดับแก่นางปุณณทาสี และให้หยิบถาดทองมา 2 ถาด ประสงค์จะใส่ข้าวมธุปายาสจนหมดพอดี มิได้เหลือเศษไว้เลย แล้วให้ปิดด้วยถาดทองอีกถาดหนึ่ง ห่อหุ้มด้วยผ้าทองอันบริสุทธิ์ ประดับร่างกายด้วยเครื่องอลังการทั้งปวงแล้ว ก็ยกถาดข้าวมธุปายาสขึ้นทูลเหนือเศียรเกล้าของนาง ลงจากเรือนพร้อมด้วยหญิงคนใช้เป็นบริวารติดตามมาอันมาก ครั้นถึงต้นไทรเห็นพระมหาบุรุษงามด้วยรัศมี ดังนั้น ก็มีความโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง สำคัญว่าเป็นรุกขเทวดาโดยแท้ เดินยอบกายเข้าไปเฝ้าแต่ไกลด้วยคารวะ ครั้นเข้าไปใกล้จึงน้อมถาดข้าวมธุปายาสถวายด้วยความเคารพยิ่ง

ขณะนั้น บาตรดินอันเป็นทิพย์ ซึ่งฆฏิการพรหมถวายแต่วันแรกทรงบรรพชา เกิดอันตรธานหายไปจากที่นั้น พระมหาบุรุษก็ทรงเหยียดพระหัตถ์ออกรับ แล้วทอดพระเนตรดูนางสุชาดา แสดงให้นางรู้ชัดว่า พระองค์ไม่มีบาตรจะถ่ายใส่ข้าวมธุปายาสไว้ นางสุชาดาทราบชัดโดยพระอาการ ก็กราบทูลว่า หม่อมฉันขอถวายทั้งถาด พระองค์มีพระประสงค์ประการใด โปรดนำไปตามพระหฤทัยเถิด แล้วถวายอภิวาททูลอีกว่า ความปรารถนาของหม่อนฉันสำเร็จฉันใด ขอสิ่งซึ่งพระหฤทัยของพระองค์ประสงค์จงสำเร็จฉันนั้นเถิด แล้วนางก็ก้มลงกราบ ถวายบังคมลา กลับเรือนด้วยความสุขใจเป็นล้นพ้น

 ลอยถาดเสี่ยงพระบารมีทรงลอยถาดเสี่ยงพระบารมี



   พระมหาบุรุษ เสด็จลุกจากที่ประทับ ทรงถือถาดข้าวมธุปายาส เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ประทับบ่ายพระพักตรสู่บุรพาทิศแล้ว ทรงปั้นข้าวมธุปายาสเป็นปั้นๆ ได้ 49 ปั้น เสวยจนหมด แล้วทรงถือถาดลงสู่แม่น้ำเนรัญชรา ขณะนั้นอานุภาพพระบารมีของพระองค์ซึ่งทรงบำเพ็ญมาบริบูรณ์ดีแล้ว ได้แสดงให้เห็นอัศจรรย์ ถาดทองนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำเนรัญชราขึ้นไปประมาณ 1 เส้น แล้วถาดทองนั้นก็จมลงตรงนาคภพพิมานแห่งพญากาฬนาคราช ครั้นพระมหาบุรุษได้ทอดพระเนตรเห็นเป็นนิมิตอันดีเช่นนั้น ก็เพิ่มความแน่พระทัยว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญสัมพุทธเจ้า


ต่อจากนั้นพระองค์จึงเริ่มบำเพ็ญเพียร ทำภาวนาจนกระทั่งได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 หรือวันวิสาขบูชานั่นเอง






         จากการที่นางสุชาดาได้บรรจงทำข้าวมธุปายาสอย่างประณีต ซึ่งเป็นมหาทานบารมีของนางเพราะวัตถุที่นำมาปรุงล้วนบริสุทธิ์ เจตนาของนางก็บริสุทธิ์เพราะตั้งใจถวายต่อผู้มีคุณธรรม คุณวิเศษ ในแง่ของบุคคลบริสุทธิ์ คือทั้งตัวนางเองซึ่งเป็นผู้ให้ ก็มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ และพระบรมโพธิสัตว์ซึ่งเป็นผู้รับก็ตั้งใจทำความเพียรเพื่อบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ถือว่ามีความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ผลบุญจากการถวายทานของนางสุชาดา จึงมีความยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาอย่างง่ายดาย และผลนี้จะติดตามตัวนางไป ทุกภพทุกชาติจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการเกิดเป็นมนุษย์ของทุกคน

ขณะนั้นนางสุชาดาก็ยังไม่รู้เลยว่า ผู้รับทานของนางมีคุณธรรม คุณวิเศษแค่ไหน นางยังได้ตระเตรียม ทานอันสุดประณีต เพื่อจะน้อมถวายพระองค์ 

        ขณะนี้เราซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนได้รู้และซาบซึ้งแล้วว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณและพระบริสุทธิคุณอันไม่มีประมาณ(พระพุทธคุณ9) ดังนั้นในวันวิสาขบูชามหามงคลนี้ เราก็ควรทำอามิสบูชาดั่งเช่นนางสุชาดา และปฏิบัติบูชาด้วยการรักษาศีล นั่งสมาธิ บำเพ็ญแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ทำให้จิตใจผ่องใส และปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า รวมถึงการไม่เป็นผู้เบียดเบียนหรือทำร้ายผู้อื่น รักษาศีล ปฏิบัติตนไม่อยู่ในความประมาทเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา จึงจะสมกับการเป็นพุทธศาสนิกชนผู้ตั้งใจสืบสานและทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองในยุคของเรา เป็นมรดกอันล้ำค่าส่งต่อไปยังลูกหลานของเราสืบไป 



วีดิโอ พุทธประวัติ 11 นางสุชาดาถวายมธุปายาส

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
-เว็บบอร์ดสนทนาธรรม[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อ 28/5/2561
-ข้าวมธุปายาส เข้าถึงจากศูนย์เครือข่ายอาหารครบวงจร เข้าถึงเมื่อ 28/5/2561

5 ความคิดเห็น: