ศาสนาพุทธ สอนฉันให้เป็นคนดี


นั่งสมาธิ

วันนี้อยากเอาเรื่องเบาๆ ตามความเข้าใจของตัวเองมาแชร์ให้อ่านบ้าง เรื่องที่อยากมาเขียนวันนี้คือ พระพุทธศาสนาสอนอะไรแก่เรา ก่อนอื่นต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า 
พระพุทธศาสนามุ่งเน้นคำสอนให้มนุษย์ทุกคนละจากชั่ว ทำความดีทำใจให้ผ่องใส

แล้วความชั่วคืออะไร ความชั่วก็คือกิเลส3ตระกูล ที่แอบแฝงอยู่ในจิตใจของเรา ได้แก่

  1. ความโลภ
  2. ความโกรธ
  3. ความหลง
ความโลภ อยากจะได้ของๆผู้อื่นที่ไม่ใช่ของๆตน ใช้อุบายเล่ห์เหลี่ยมกลโกงสารพัดให้ได้สิ่งนั้นมาโดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ร้อนของผู้ที่เป็นเจ้าของ  จะเห็นได้จากข่าวที่ทุกวันนี้ทวีความรุนแรงขึ้นถึงขั้นทำร้ายฆ่ากันให้ตาย

ความโกรธ ผูกพยาบาทอาฆาต อิจฉาริษยา ไม่มีเมตตา ไม่มีการให้อภัย มุ่งแต่จะจองล้างจองผลาญกัน  จนหาความสงบสุขไม่ได้

ความหลง หรือความไม่รู้ไม่รู้ว่าคนเราเกิดมาทำไม ตายแล้วจะไปไหน

เพราะถ้ารู้เหมือนดังเช่นพระอรหันต์ทั้งหลายจะไม่มีใครกล้าทำความชั่วเลยแม้แต่ผู้เดียว แต่เพราะไม่รู้และไม่ยอมเปิดโอกาสศึกษาหาความรู้ที่แท้จริงจากคำสอนในพระพุทธศาสนา  มนุษย์จึงหลงเพลิดเพลินกับการประกอบกรรมชั่วและไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม กฎแห่งไตรลักษณ์

อะไรคือสิ่งที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวไม่ให้เราพลั้งเผลอไปกระทำความชั่วทั้งทางกาย วาจา ใจ

ในทางพระพุทธศาสนาบอกวิธีการเอาไว้อย่างชัดเจน  

จะชนะความโลภต้องลงมือทำทาน คือการสละออกจากใจ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง  สิ่งของเพื่อกำจัดความตระหนี่  รู้จักการให้ การแบ่งปัน  ที่สำคัญและทำได้ยากคืออภัยทาน แต่ถ้าทำได้คือการชนะใจตัวเอง ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ 

ความโกรธ เอาชนะได้ด้วยการรักษาศีล เพราะศีลจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้เราไปกระทำล่วงเกินต่อผู้อื่น เมื่อเรารักษาศีลเท่ากับเรารักษาชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นด้วย เพราะใคร ก็ไม่อยากให้ใครมาทำร้าย ทำลาย ชีวิตของเรา แย่งชิงทรัพย์  ของรักของเราโกหกหลอกลวงขาดความจริงใจ หน้าไหว้หลังหลอก และถ้าเรามีสติเราก็จะสามารถสอนตัวเองได้ คนที่ขาดสติย่อมสามารถทำผิดศีลได้ทุกข้อพร้อมก่อความเดือดร้อนให้กับสังคม

สำคัญที่สุดคือการกำจัดความหลงด้วยการฝึกสมาธิ  เพราะสมาธิเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา  ช่วยทำให้เราควบคุมตนเอง และยังทำให้เรามองเห็นข้อผิดพลาดบกพร่องของตนเอง  มีความสุขในการแก้ไขสิ่งเหล่านั้น รู้จักพิจารณาไตร่ตรองในเหตุการณ์ต่าง ตรงตามความเป็นจริง สมาธิจึงเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจแม้มิใช่พุทธศาสนิกชนก็ตาม เมื่อเราได้ฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องใจของเราย่อมได้รับการกลั่นแก้จนเกิดความเลื่อมใส  ความใสของใจเปรียบเหมือนกระจกเงาส่องหน้า  กระจกยิ่งใสเท่าใดย่อมมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน ใจที่ผ่องใสย่อมทำให้ความคิด  คำพูดและการกระทำของเราออกมาจากแหล่งที่บริสุทธิ์ที่อยู่ภายใน ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าใดบุญกุศลย่อมเกิดขึ้นกับเราเป็นดั่งเงาติดตามตัว  บุญนี้ก็จะไปตัดรอนวิบากกรรมที่เราเคยกระทำไว้ในอดีตและนำพาให้ชีวิตประสบแต่เรื่องราวดี คนดี   หน้าที่การงานที่ดี  สิ่งแวดล้อมที่ดี  ทำให้เราห่างไกลจากคนภัยคนพาล  มีโอกาสที่จะสร้างบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป  ความสุขและความสำเร็จจึงบังเกิดขึ้นทับทวี  รู้อย่างนี้เรามาทำความดีกันดีกว่า  ง่ายๆด้วยการทำทาน รักษาศีล  และเจริญภาวนา

หลักธรรมต่าง เหล่านี้ เราอาจจะบอกว่า เราหาอ่านจาก Google หาหนังสืออ่านก็ได้ นั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่อยากจะบอกและขอแนะนำว่า ถ้ามีเวลาก็มาวัดมาฟังธรรมเถอะ จะวัดไหน ก็ได้ เลือกเอาที่เราชอบ เพราะในชีวิตของเรานั้นยุ่งด้วยการทำมาหากิน การแย่งชิงทรัพยากรต่าง แต่พระท่านมีเวลาศึกษาพระไตรปิฎก ศึกษาธรรมะ ท่านได้วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตกผลึกเป็นคำสอนง่ายๆ เหมาะแก่การปฏิบัติแล้ว ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการศึกษาเอง ซึ่งนอกจากนี้เราจะได้ไปฟังธรรมแล้ว เรายังได้โอกาสไปทำทาน ไปอาราธนาศีลอีก แล้วค่อยมาแบ่งปันกันต่อนะ


มะขามป้อม ศรวารี


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น